League of Legends: Wild Rift – คู่มือไปสู่ชัยชนะสำหรับผู้เล่นมือใหม่

0
612

ซัมมอนเนอร์ทั้งหลาย พร้อมกันหรือยัง พบกับประสบการณ์ใน Wild Rift ที่เต็มไปด้วยทักษะและกลยุทธ์แบบ 5v5 MOBA ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามใน League of Legends จาก Riot Games คุณพร้อมที่จะเข้าสู่เกมการแข่งขันที่แฟร์และสนุกสนานนี้แล้วหรือยัง  เมื่อเข้าร่วมเป็นซัมมอนเนอร์ใน Wild Rift คุณสามารถใช้ความสามารถเฉพาะตัวสุดสร้างสรรค์ของแชมเปี้ยนได้ และยังมิกซ์แอนด์แมทช์กับเพื่อนๆ ในทีมได้อีกด้วย ผู้เล่นในทุกเลเวลสามารถรวมกลุ่มกับเพื่อน เลือกแชมเปี้ยน และต่อสู้เพื่อทำลาย Nexus ของฝ่ายศัตรูเพื่อชัยชนะ

ตอนนี้ Wild Rift พร้อมเปิดประตูต้อนรับผู้เล่นให้มากขึ้น เราจึงทำคู่มือสำหรับผู้เล่นใหม่ขึ้น  เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจกับองค์ประกอบพื้นฐานของเกมกันก่อน มีบางคนกล่าวไว้ว่า “ความรู้คือพลัง” ดังนั้น เรามาเริ่มกันเลย!

เลือกแชมเปี้ยนของคุณ

Wild Rift Champion Select

ใน Wild Rift มีแชมเปี้ยนมากถึง 40 ตัวด้วยกัน (จากทั้งหมดที่มี 151 แชมเปี้ยน) ยกตัวอย่างเช่น   Ahri, Jinx, Lux, Sona และ Master Yi เป็นต้น แชมเปี้ยนในคลาสนี้มีทั้ง Fighter, Tank, Mage, Assassin, Support และ Marksman ที่มีบทบาทส่งเสริมกันและกันภายในเกม

คุณสามารถเลือกใช้แชมเปี้ยนในคลาสใดก็ได้ให้มีบทบาทตามที่ใจต้องการ  เรายังเคยเห็น Faker เล่น Kled (ที่เป็นสายแทงค์ / นักสู้) อยู่ใน Mid Lane บน League of Legends PC ด้วยล่ะ บางคนก็สร้างสรรค์ยิ่งไปกว่านั้น เช่น การให้ Soraka (ที่เป็นสายซัพพอร์ต / นักเวทย์) ใน Top lane อีกด้วย แต่ก็มีสูตรเล่นให้ชนะที่ให้คุณได้ลองทำตามอยู่ในเกมจัดอันดับด้วยนะ

มีห้าทางเลือกในการวางบทบาทใน Wild Rift: Baron lane, Mid, Jungler and Dragon Lane (ADC & Support) สิ่งเหล่านี้เป็นจุดสำคัญของเกม หากวางบทบาทให้เข้ากับความสามารถได้ดี ก็จะทำให้ภารกิจสำเร็จได้

แต่ละตัวละครเริ่มต้นจากศูนย์ ดังนั้นคุณต้องเพิ่มแรงค์ให้กับพวกเขาเพื่อให้ยากในการต่อกรภายในเกม  ใช้ Runes เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้พวกเขาได้ด้วยนะ สามารถซื้อไอเทมและเรียนรู้เพิ่มเติมว่าเอฟเฟคต์อะไรบ้างที่ใช้แล้วเสริมพลังกัน 

Baron Lane

Top lane มักจะเป็นสนามให้เหล่าสายแทงค์ และนักสู้เสมอ พวกนักสู้ที่มีพลังดาเมจสูงๆสามารถเข้าร่วมต่อสู้กับศัตรูได้ในเลนนี้ ส่วนสายแทงค์จะทำหน้าที่ล็อคคู่ต่อสู้ ปกป้องเพื่อนในทีมและเป็นตัวเริ่มเปิดฉากต่อสู้อีกด้วย ผู้เล่นใน top lane สามารถเปลี่ยนไปเล่นใน Mid lane เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับเป้าหมายต่อไป ขณะเดียวกันคุณสามารถซื้อเทเลพอร์ตบูทเพื่อให้ย้ายไปอีกฝั่งของแผนที่ได้อย่างรวดเร็วด้วย

สิ่งที่ต้องคำนึงถึงก่อนจะเลือกแชมเปี้ยนของคุณ

  • ประเมินดูว่าสิ่งที่ทีมของคุณยังขาดอะไรอยู่ ไม่ว่าจะเป็น แทงค์ หรือดาเมจดีลเลอร์
  • ปรับเวทย์ซัมมอนเนอร์ของคุณให้เข้ากับสไตล์การเล่น ไม่ว่าจะเป็นสายตั้งรับหรือจะบุก

Mid Lane

ด้วยทำเลที่อยู่ตรงกลางของแผนที่ ผู้เล่นใน Mid Lane มีโอกาสที่จะโดน gank และมีโอกาสเตรียมพร้อมสำหรับ Baron หรือDragon ได้มากกว่าเลนอื่นๆ  นักเวทย์และมือสังหารบางคนที่มีพลังดาเมจสูงๆ และเคลื่อนที่ได้เร็ว จะเหมาะกับการเล่นใน Mid lane นี้ เนื่องจากพวกเขาต้องเป็นตัวนำและกลับที่ปลอดภัยด้วยสกิลเคลื่อนที่เร็วในเวลาเดียวกัน

 สิ่งที่ต้องคำนึงถึงก่อนจะเลือกแชมเปี้ยนของคุณ

  • ประเมินดูว่าทีมต้องการความสามารถด้านใด ควบคุมฝูงชนหรือโจมตีเป้าหมายเดี่ยวๆ ด้วยพลังดาเมจสูงๆ 
  • เช็คดูว่าศัตรู พวก jungler อันตรายแค่ไหน  เพราะคุณมีโอกาสที่จะโดน gank จากพวกนี้ได้

Jungle

ผู้เล่นใน Jungle สามารถสร้างหรือทำลายโครงสร้างทีมของคุณได้ พวกเขามีความสามารถชักนำให้เกิดสิ่งต่างๆ บนแผนที่ ควบคุมแต่ละเลนและช่วยทีมในเป้าหมายทั่วๆ ไปได้เหมือนกับ dragon และ Baron นี่เป็นหน้าที่ของทีมคุณเท่านั้นที่คุณต้องเพาะพันธุ์พวกเหล่าร้ายเพื่อให้ได้ไอเทมทรงพลังและพัฒนาความสามารถให้มากขึ้น การเล่นใน Jungle จะต้องรู้จักแผนที่อย่างดีจึงจะช่วยให้หน้าที่นี้สำเร็จได้

 สิ่งที่ต้องคำนึงถึงก่อนจะเลือกแชมเปี้ยนของคุณ

  • เช็คดูว่าทีมยังขาดด้านไหน ดาเมจดีลเลอร์ (ให้เลือกมือสังหาร) หรือตัวเริ่มต่อสู้ของทีม (ให้เลือกแทงค์หรือนักสู้)

Dragon Lane

ADC (Attack Damage Carry)

Attack Damage Carry หรือที่รู้จักกันในนาม ADC เป็นมือขวาของนักแม่นปืน ความแข็งแกร่งของ ADC คือความสามารถเพาะและสร้างไอเทมที่สร้างดาเมจได้มากขึ้นในระยะปลอดภัย ขณะที่ทีมกำลังต่อสู้ ถึงแม้ว่าแชมเปี้ยนของ ADC จะทนต่อพลังดาเมจของศัตรูได้ แต่ก็ยังมีจุดด้อยในเรื่องสุขภาพและการป้องกัน ดังนั้นอย่าลืมว่า ต้องรักษาระยะห่างเข้าไว้!

สิ่งที่ต้องคำนึงถึงก่อนจะเลือกแชมเปี้ยนของคุณ

  • สื่อสารและทำงานร่วมกันระหว่าง ADC และสายซัพพอร์ตสำคัญอย่างยิ่ง ดังนั้นเลือกความสามารถของแต่ละตัวให้ดี

Support

มักไม่ได้รับความสนใจมากนัก แชมเปี้ยนสายซัพดีๆ ซักตัวก็พาทีมชนะได้นะ เราคงนึกไม่ออกว่าโลก (ในที่นี้หมายถึง Rift) ที่ไม่มี Rocket Grab ของ Blitzcrank หรือขาด Crescendo ของ Sonaไป มันจะเป็นยังไงสินะ แชมเปี้ยนสายซัพเปรียบเสมือนเทวดาที่คอยปกปักษ์รักษาสมาชิกในทีมโดยเฉพาะ ADC และ Mid นอกจากนี้พวกเขายังสามารถพาทีมเริ่มเข้าต่อสู้ได้ด้วย ยังมีอีกหน้าที่นึงก็คือช่วยให้ทีมมองเห็นแผนที่ได้ดีขึ้น – ซึ่งเป็นการแชร์หน้าที่ร่วมกับ Jungler พวกเขาเก่งในด้านควบคุมฝูงชน (โดยเฉพาะช่วงตะลุมบอนกันอยู่) และถือว่าเป็นตัวเปลี่ยนเกมได้ในแมทช์เลยนะ ซึ่งมีแทงค์และนักเวทย์หลายตัวที่มีบทบาทนี้

สิ่งที่ต้องคำนึงถึงก่อนจะเลือกแชมเปี้ยนของคุณ

  • สายซัพพอร์ตสามารถปรับการเก็บสิ่งของจากองค์ประกอบของทีม และในเวลาเดียวกันก็เสริมพลังให้กับเพื่อน ADC อีกด้วย

ทำความคุ้นเคยกับแผนที่

WIld Rift Map

ด้วยจุดมุ่งหมายของเกมคือการทำลายใจกลางฐานของทีมศัตรูที่เรียกว่า Nexus คุณจะต้องรู้จุดสำคัญบนแผนที่ แผนที่ Wild Rift ประกอบด้วยสามเลนคือ Baron Lane (Top), Mid Lane และ the Dragon Lane (Bottom) ซึ่งแต่ละเลนจะมีคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยเติมเต็มศักยภาพของคลาสและบทบาทของแชมเปี้ยนแต่ละตัว

Baron Lane

Baron Lane นี้เป็นที่ที่นักสู้ มือสังหาร และแทงค์ มารวมตัวกัน ด้วยความที่เป็นเลนสำหรับฉายเดี่ยว 1v1 แล้ว ชาวท็อปเลนต้องใช้ความอดทนเป็นพิเศษในจุดนี้ รวมถึงใน Baron pitเองด้วย และยังต้องพยายามจัดการภายในเลน ในช่วงกลางเกม ทีมของคุณควรเก็บ XP และไอเทมให้เพียงพอ เพื่อใช้ในการต่อสู้กับ Baron การวางแผนที่ดีก็มีส่วนสำคัญกับเกมเช่นกัน ในเลนนี้ให้คุณมองเห็นบริเวณรอบๆ แม่น้ำ บัฟของศัตรูเป็นสีแดง ส่วนบัฟของแนวร่วมเป็นสีน้ำเงิน  ในขณะที่คุณอยู่ในแผนที่ mirrored map สีของบัฟจะสลับสีกันโดยที่ บัฟของแนวร่วมเป็นสีแดง ส่วนบัฟของศัตรูเป็นสีน้ำเงิน

Mid Lane

แชมเปี้ยนอย่าง นักเวทย์ และ มือสังหาร จะมีบทบาทในเลนนี้ ใครก็ตามที่อยู่ในจุดนี้ต้องพร้อมใช้โอกาสฆ่าคู่ต่อสู้แบบฉายเดี่ยว หลบเลี่ยงจาก gank และร่วมต่อสู้พร้อมกับทีมอยู่เสมอ  ใน Mid Lane นี้ จะเป็นที่ที่คุณสามารถเก็บทองและ XP ในฐานะการเป็นแชมเปี้ยนได้มากทีเดียว ในเลนนี้ให้คุณมองเห็นบริเวณรอบๆ แม่น้ำ และ raptor ของทั้งฝั่งศัตรูและแนวร่วมได้

Dragon Lane

สำหรับเลนนี้จะเป็นแบบ คู่หูดูโอ้ 2v2 ของแชมเปี้ยน ADC และ Support การจะชนะในเลนนี้ได้ต้องอาศัยทีมเวิร์คอย่างมากระหว่างสองตัวละคร และกับพวก Jungler ด้วย (ยิ่งสมาชิกในทีมมาก ยิ่งมีพลังดาเมจมาก) ต้องคอยระวังให้กันและกันเพื่อให้อยู่รอดจาก gank และในช่วงจังหวะชุลมุนตอนเริ่มเกมด้วย ซึ่งจะแตกต่างจากใน Baron เพราะใน Dragon สามารถเอาชนะได้เร็วกว่าพร้อมยังได้บัฟเจ๋งๆ ด้วย ในเลนนี้ให้คุณมองเห็นบริเวณรอบๆ แม่น้ำ ไปจนถึง Dragon pit บัฟของศัตรูเป็นสีน้ำเงิน ส่วนบัฟของแนวร่วมเป็นสีแดง ในขณะที่คุณอยู่ในในแผนที่ mirrored map สีของบัฟจะสลับสีกันโดยที่ บัฟของแนวร่วมเป็นสีน้ำเงิน บัฟของศัตรูจะเป็นสีแดง

Jungle

จังเกิ้ลหรือพื้นที่ป่า กว้างเกินกว่าจะจัดเป็นเลน แต่พื้นที่นี้สำคัญมากๆ เพราะ Jungle เป็นเพียงทางเดียวที่ทีมคุณและทีมศัตรูต้องผ่านเพื่อไปยังจุดอื่นๆของแผนที่ การเดินทางในจังเกิ้ลนี้ ต้องมั่นใจว่ารู้จักแผนที่ดีพอ เพื่อหลีกเลี่ยงการเซอไพรส์จากทีมศัตรูด้วยนะ

Levelling Up, Runes & Item Builds 

Wild Rift Runes

Runes

หลังจากที่เลือกแชมเปี้ยนได้แล้ว คุณสามารถตั้งค่ารูนให้เข้ากับแชมเปี้ยนได้ด้วย คุณอยากได้ดาเมจเพิ่มเพื่อทำลายศัตรูมั้ย หรืออยากได้ความสามารถในการควบคุมฝูงชน  แม้กระทั่งอยากได้ HP เกราะ หรือจะเป็นเวทย์ป้องกันเพิ่มอยู่ใช่มั้ย

คุณจะได้เปรียบมากเลยนะ ถ้าตั้งค่ารูนให้ถูกต้อง แม้ว่าทีมผู้สร้าง Wild Rift จะเลือกรูนให้กับแชมเปี้ยนทุกตัวแล้ว แต่การปรับแต่งด้วยคุณเองก็จะเป็นประโยชน์ไม่น้อยเลยทีเดียว

สำหรับมือใหม่ คุณสามารถตั้งค่ารูนให้กับแชมเปี้ยนทุกตัวได้ในหน้าเมนู และค่อยๆปรับให้เข้ากันกับแชมเปี้ยนแต่ละตัวได้ภายหลัง

Levelling Up

ใน Rift ทุกแชมเปี้ยนต้องต่อสู้เพื่อไต่เลเวลขึ้นไปจนถึงเลเวล 15 เพื่ออัพเกรดความสามารถ และสร้างไอเทม การมีเลเวลสูงกว่าฝั่งศัตรูย่อมเป็นประโยชน์แน่นอน

ผู้เล่นมือใหม่ส่วนใหญ่มักจะตื่นเต้นเกินไปกับการฆ่าศัตรู อย่าทำพลาดแบบพวกเขาเลยนะ ใน Wild Rift คุณต้องบาลานซ์สมดุลระหว่างมินเนี่ยนฟาร์มมิ่ง กับการฆ่าของแชมเปี้ยน สำหรับพวกมินเนี่ยนคุณต้องชนะเท่านั้น เพราะแชมเปี้ยนอาจไม่ชนะได้ในทุกครั้ง ลองนึกถึงทองและประสบการณ์ที่จะได้ดูสิ (คุณอาจต้องเสียเวลาเพื่อฆ่า เพื่อให้ได้มันมาไง)

Item Build

ทำความรู้จักกับไอเทมใน Wild Rift จะเป็นประโยชน์ต่อคุณมากเลยนะ ทำไมต้องใช้ไอเทมเวทย์ป้องกันในเมื่อศัตรูเป็นแค่พวก AD หรือทำไมต้องสร้างไอเทมดาเมจในเมื่อคุณจะไม่รอดจากพลังดาเมจของทีมศัตรูอยู่แล้ว นี่เป็นเพียงคำถามบางส่วนที่ต้องถามตัวเอง ก่อนที่จะสร้างไอเทมสักอัน   การปรับเปลี่ยนไอเทมให้เข้ากับแต่ละแมทช์มักเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้เป็นฝ่ายชนะได้

สรุปก็คือ หากคุณอยากจะขึ้นนำในเกม ต้องจำข้อมูลพื้นฐานที่สำคัญต่อเกมให้ได้ ระแวดระวังพื้นที่ต่างๆ ในแผนที่เพื่อให้วางแผนกลยุทธ์ให้ดี คอยติดตามโพสต์ต่อไปของเรา ที่จะมีการพูดถึงแชมเปี้ยนที่หลากหลาย รวมถึงรายละเอียดสกิลต่างๆ สไตล์การเล่น และการรวมกลุ่มต่อสู้กันอีกด้วย

BUY APP & GAME CREDITS ONLINE

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here